ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยของเราได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Latin Business Forum ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่อาเซียนได้กำหนดไว้ ว่า จะทำความรู้จักกับประเทศแถบละตินอเมริกามากขึ้นโดยในปีที่แล้ว จัดที่กรุงจาการ์ตาปีนี้จัดที่กรุงเทพฯและปีหน้าจะจัดที่กรุงมะนิลา

คนไทยส่วนใหญ่จะไม่คุ้นเคยกับภูมิภาคละตินอเมริกาและสาเหตุหนึ่งที่ทุกคนเอ่ยถึง คือ "เพราะว่าอยู่ไกลเกินไป" การอยู่ไกลทำให้ไม่คุ้นเคย ได้ยินเรื่องราวของประทศแถบนี้น้อย และไม่ค่อยมีทัวร์จัดไป เพราะต้องใช้เวลาเดินทางนาน รวมเวลาท่องเที่ยวด้วยแล้ว ก็ต้องจัดไม่ตำกว่า 10 วันจึงจะคุ้มค่าการเดินทาง และค่าใช้จ่ายก็ยังสูงอีกด้วย เนื่องจากค่าบัตรโดยสารเครื่องบินราคาแพง

      นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 10-20 พ.ค.นี้ ทีทีอาร์ได้ร่วมกับสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย เตรียมนำคณะนักธุรกิจทางเดินอัญมณี อาหาร เฟอร์นิเจอร์ รวมกว่า 100 รายไปเปิดตลาดการค้าการลงทุนที่ประเทศรัสเซีย เพื่อเป็นการนำร่องก่อนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการต่อไปในราวต้นเดือน มิ.ย. นี้ และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพบว่า ยังไม่มีบรรดารัฐมนตรีหรือผู้นำองค์กรหน่วยงานภาครัฐแห่งใดเดินทางไปเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการจึงทำให้ขาดโอกาสสำคัญที่จะเข้าไปเปิดตลาดที่รัสเซีย

      นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยหลังเดินทางไปสหรัฐพบนายอาร์โนล์ชวาร์เซเน็กเกอร์ ได้ขอให้อำนวยความสะดวกให้กับคนไทยที่ไปประกอบธุรกิจ เพราะในรัฐแคลิฟอร์เนียมีคนไทยอาศัยอยู่กว่า 5 แสนคน รวมทั้งหารือกับนักลงทุนไทยในสหรัฐเพื่อขยาย "ไทยทาวน์" ให้มากขึ้น เช่นเดียวกับไชน่าทาวน์ จากเดิมมีอยู่ที่ถนนฮอลลีวู้ดบลูโลวาร์ดเพียงแห่งเดียว และนายอาร์โนลด์ รับปากจะเดินทางมาเยือนกรุงเทพฯ ในวันที่ 10-11 ก.ย. นี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและแคลิฟอร์เนีย

      ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ Japan External Trade Organization (JETRO) Japan Bank for International (JBIC) Japan Chamber of Commerce (JCC) และสถานฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ซึ่งหลังจากได้เข้าพบรัฐมนตรีและผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเยือนกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 7-14 กรกฎาคม 2552 ส่งผลให้เกิดการประสานงานในการส่งเสริมการลงทุน การจับคู่ทางธุรกิจระหว่างชาวไทยและญี่ปุ่น รวททั้งการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารความร่วมมือของประเทศญี่ปุ่นแก่นักลงทุนชาวไทย โดยมีกลุ่มธุรกิจสาขาชิ้นส่วนยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มการพัฒนาอาคารสำนักงานศูนย์การค้าเข้าร่วมและให้ความสนใจ ซึ่งที่ผ่านมา JBIC ไม่เคยปล่อยสินเชื่อกับภาคเอกชนมาก่อน หลังจากการได้พบปะกันครั้งนี้ ก่อใก้เกิดการเจรจาตกลงกันบ้างแล้วในบางส่วนซึ่งส่งผลดีต่อการลงทุนร่วมกัน

          ด้วยนายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย ได้นำคณะภาคเอกชนภายใต้สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับกว่า 70 บริษัท เดินทางเยือนสาธารณรัฐอิตาลี ระหว่างวันที่ 14-21 มกราคม 2553 ตามคำเชิญของสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยฯ และบริษัท เฟียร่า มิลาโน สปา ซึ่งเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้าประเภทของขวัญของตกแต่งบ้าน และเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี (มาเซฟ มิลาโน อินเตอร์เเนล โฮม โชว์) เพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้ามาเชฟ มิลาโน และวิเชนซ่า โอโร เฟร์ส รวมทั้งไปเยี่ยมชมและให้กำลังใจผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยรายย่อยที่ไปร่วมงานแสดงสินค้าที่อาคารพาลากิส ซึ่งจัดงานแสดงสินค้าฯ ในช่วงเวลาเดียวกันกับงานวิเชนซ่า โอโร เฟิร์ส

          ในการเยือนครั้งนี้ ในส่วนของภาครัฐ นายวัชระฯได้เข้าพบหารือข้อราชการกับนายอดอฟโฟ เออร์โซ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจอิตาลี (ด้านการค้าต่างประเทศ) นายโรเบอร์โต รอนซ่า ที่ปรึกษาอาวุโสของผู้ว่าการแคว้นลอมบาร์เดีย (ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ)  นายมาร์โก เฟลิซาตี้ รองผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายอุตสาหกรรมยุโรปและต่างประเทศ สมาพันธ์อุตสาหกรรมแห่งอิตาลี และประชุมร่วมกับผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจอิตาลี และสภาหอการค้าอิตาลี เพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนการค้าการลงทุน และกิจกรรมต่างๆระหว่างไทยกับอิตาลี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมระหว่างสองประเทศ