NationThailand.com - Business |
|
ตะลุย...ละตินอเมริกา |
นับเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงแต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการก็ต้องออกเเรงและใช้ความพยายามสูงเช่นกันในการที่จะพิชิตตลาดที่ว่านี้ ซึ่งก็คือกลุ่มประเทศละตินอเมริกา คำกล่าวที่ว่า "ผู้ประกอบการต้องใช้ความพยายามสูงนั้น" ไม่ใช่เป็นเพราะปัจจัยด้านการแข่งขันเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นเพราะว่าตลาดนี้เป็นตลาดใหม่และใหญ่ ประกอบการไทยยังไม่คุ้นชิน ทั้งในเรื่องไลฟ์สโตล์ วัฒนธรรม การเดินทางที่ไกลแต่ละครั้งต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง แต่ในภาวะการณ์เช่นนี้ที่ตลาดใกล้บ้านไม่หมูอีกต่อไปการโอกาสในตลาดไกลบ้านจึงเป็นที่จำเป็น ดร. วัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า หลังจากที่ทางคณะผู้แทนไทยได้จัดทริปพาผู้ประกอบการไทยในนามองค์กรต่างๆไปในหลายประเทศในกลุ่มละตินอเมริกา และล่าสุดที่ได้มีการจัดประชุมสัมมนา หัวข้อ "Lati n Business Forum 2010." ไปเมื่อเร็วๆนี้ เชื่อว่า ผู้ประกอบการไทยจะมีโอกาสเปิดประตูก้าวเข้าสู่ละตินอเมริกายิ่งขึ้น โดยการใช้เนิตเวิร์กต่างๆที่รัฐได้มีการเปิดทางไว้ให้ยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่สุดก็ตือ สถานทูค 7 ประเทศในประเทศไทยเพื่อ เปิดไปสู่ประเทศอื่นๆ อีกกว่า 30 ประเทศสภานักธุรกิจไทยขละตินอเมริกา ฯลฯ โดยแนวทางการทำงานที่ทำมาตลอดก็สร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจใน 5 ด้านหลัก คือ สินค้า บริการ ทรัพยากร มนุษย์ การลงทุนตั้งโรงงานระหว่างกันและลงทุนโดยการติดต่อทั้งในรูปแบบรัฐต่อรัฐ องค์กรต่อองค์กร และบิสซิเนสทู บิสซิเนส ซึ่งที่ผ่านก็มีรูปธรรมเกิดขึ้นแล้วไม่ว่าจะเป็นยอดการสั่งซื้อสินค้า อาทิ สมุนไพรในแบบอาหารเสริม ชิ้นส่วนรถยนต์ ฯลฯ แต่หลังจากนี้ไปเชื่อว่าผู้ประกอบการในกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าสมาคมอัญมณีฯ กลุ่มธุรกิจอาหาร กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มสิ่งทอ ฯลฯ น่าจะเดินหน้าสานต่อในการบุกเบิกตลาดละตินอเมริกาได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ที่ผ่านมาการจัดทริปไปในแต่ละครั้ง รัฐจะเลือกตัวแทนภาคเอกชนในกลุ่มต่างๆ โดยเป้าหมายก็เพื่อให้ประธานแต่ละกลุ่มขยายผลต่อไปยังสมาชิก ต้องยอมรับว่าการเดินทางไปยังประเทศละตินอเมริกานอกจากต้องใช้เวลานานกว่า 20 ชั่วโมงแล้ว ค่าใช้จ่ายก็สูงด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการรายเลิกอาจจะยังไม่พร้อม แต่ไม่ใช้หมดโอกาส โดยรายเล็กสามารถลุยตลาดนี้ได้ในรูปแบบของซับคอนแทร็กด์ โดยให้รายใหญ่ที่มีสายป่านยาวกว่าไปบุกเบิกตลาดก่อน จากนั้นรายเล็กก็ค่อยตามไปหรือบางรายไปพร้อมกันแต่อยู่เบื้องหลังในส่วนของอุตสาหกรรมซัพพอร์ต เป็นต้น ด้านวิศิษฏ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้ผลิตและส่งออกเครื่องเทศง่วนสูน หรือพริกไทยตรามือ เล่าว่า มีโอกาสได้เดินทางไปในหลายๆประเทศในกลุ่มละตินอเมริกา อาทิ ปานามา บราซิล ฯลฯ พบว่ากลุ่มประเทศนี้มีศักยภาพสูงพอสมควรสำหรับสินค้าไทย สินค้าไทยที่มีโอกาสก็คืออาหาร ซึ่งจะแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ อาหารประเภทวัตถุดิบ อาทิ เครื่องเทศ ซอส นำปลา ฯลฯ และร่านอาหารที่ประกอบการไทยสามารถเข้าไปลงทุนได้ คนที่นั่นก็รู้จักและชื่นชอบอาหารไทย "มีโอกาสได้เดินเชอร์เวย์ร้านโชห่วยพบว่ามีสินค้าไทยหลายๆ ชนิดวางขายอยู่พอสมควร รวมถึงพริกไทยตรามือด้วยก็ได้มีการสอบถาม พบว่าส่วนใหญ่นำเข้ามาจากสเปน ฝรั่งเศล ฯลฯ จึงได้มีโอกาสแนะนำตัวว่าผมเองที่เป็นผู้ผลิต ซึ่งถ้าเขาอยากติดต่อกับเราโดยตรงก็สามารถทำได้ซึ่งจะได้ต้นทุนที่ถูกกว่า ส่วนสิ่งทอจะต้องมีการพัฒนารูปแบบที่แตกต่างและมีคุณภาพเนื่องจากปัจจุบันมีสิ่งทอจากประเทศจีนเข้าไปจำนวนมาก " วิศิษฏ์กล่าวและว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยเคยชินแต่การหากินใกล้บ้าน เอเชีย ญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป แต่จากวิกฤตเศรษฐกิจในรอบนี้น่าจะเป็นการจุดประกายให้ผู้ประกอบการต้องคิดใหม่ และพยายามมากขึ้นในการหาตลาดใหม่ๆที่ยังไม่เคยไป ซึ่งช่วงเริ่มต้นอาจจะลำบาก เพราะไกล ต้นทุนสูง แต่ถ้าเรามีพันธมิตร มีเน็ตเวิร์กที่รัฐบาลได้พยายามสร้างทางให้แล้ว อย่างเช่น งาน "Latin Business Forum 2010" ที่เพิ่งจัดไป เราก็สามารถใช้ช่องทางต่างๆเหล่านี้เพื่อสานโอกาสทางธุรกิจต่อไปได้ "ปัจจุบันยอดค้าขายระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศละตินอเมริกามีประมาณ 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามแผนเดิมตั้งเป้าที่สร้างให้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือประมาณ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 5ปี แต่หลังจากที่ภาครัฐได้มีการขับเคลื่อนมาตลอด บวกกับภาคเอกชนที่มีการตื่นตัว เชื่อเป้าหมายตัวการเติบโตดังกล่าวน่าจะสัมฤทธิ์เร็วขึ้นกว่าเดิม ดรฺ วัชระกล่าวตอนท้าย |
| Pacific Basin Economic Council - A private business association advocating free and open trade in the Asia-Pacific - http://www.pbec.org |
| Young President's Organization is the world's largest network of peers - http://www.ypo.org |