Latin America is expected to become one of Thailand's key emerging markets over the next five years, as the government steps up its promotions.

The Thailand Trade Representative (TTR) Office this year staged its first trade and investment promotion trips to the region, to Brazil in July and to Peru and Mexico from Sept 21-30.  The activity complement tourism promotion events held every year in the region by the Thai Embassy in Mexico, which also handles Cuba, Guatemala, Honduras, Nicaragua and Bolivia.

Thai exports to Latin America are forecast to be worth US$7.5 billion five years from now, according to the Thai Chamber of Commerce.

Mexico City: Trade between Thailand and Mexico could increase by 20-30% following the signing of 29 agreements between Thai and Mexican businesses to expand trade and investment in the short term.

The memoranda of understanding cover sectors including automobiles and parts textiles, jewellery, food, spas, construction and trading businesses.

The two countries have also agreed in principle to work on shortening customs procedures, said Vachara Phanchet, the Thai Trade Representative, who led a business mission to Monterrey and Mexico City this week.

Lima: Bilateral trade between Thailand and Peru could rise 25% next year to $500 million under a new free trade area agreement, says Vachara Phanchet, the Thailand Trade Representative.

Mr. Vachara, who is leading a Thai business delegation to Peru and Mexico until Sept 30, held talks with Carlos Posada, Peru's vice-minister of external commerce and tourism, to work on overcoming obstacles to the FTA.

Mr. Vachara said the two countries still needed to improve customs regulations and tariff structures, and the Thai House needed to approve the agreement.

ทำเอาบรรดาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรุ่นใหม่อย่าง "ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์" เจ้าของไอศกรีมชื่อดัง ไอเบอรี่ หรือ ก้อง-อดิศักดิ์ รักอริยพงค์" เจ้าของน้ำผลไม้รวมยี่ห้อ บิวตี้ ดริ้งค์ หรือแม้แต่เจ้าของโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 อย่าง "ศีขรินทร์ ชเนศร์" ต้องเปลี่ยนทัศนคติกับการทำงานของ คนภาครัฐ แบบหลังมือเป็นหน้ามือทีเดียวหลังจากได้ร่วมทริปเดินทางไปเปิดตลาดหาช่องทางการลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่นกับทีทีอาร์อย่าง "ดร.วัชระ พรรณเชษฐ์" เพราะได้ประสบการณ์ตรงกับตัวเองจากที่เคยมองว่าคนของภาครัฐเฉื่อยชา พอมาเจอทีทีอาร์คนนี้คนนี้คนละเรื่องกันทีเดียว เพราะว่าท่านทีทีอาร์ทำงานแบบปรู๊ดปร๊าด ขนาดเอกชนรุ่นใหม่ไฟแรงยังตามไม่ทัน ทำเอา... ดร.วัชระ หน้าเเดงขึ้นมากะทันหันทันที

นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยว่า ผลการเดินทางเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 22-26 ส.ค. ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะนอกจากได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานของญี่ปุ่นแล้ว ภาคเอกชนของไทยยังสามารถเปิดตลาดได้เป็นผลสำเร็จ แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจว่าในการประกาศแผนยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ได้ให้ความสำคัญกับการเติบโตในกลุ่มประเทศเอเชีย โดยเตรียมเข้าไปร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนหรือพีพีพีในประเทศเอเชียถึง 9 ประเทศ โดยจัดสรรเงินงบประมาณไว้มากถึง 50 ล้านเยน แต่กลับพบว่าไม่มีประเทศไทยอยู่ในแผนนี้ มีแต่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย เป็นต้น